วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ดูงาน การจัดการศึกษา มาเลเซีย,สิงคโปร์ โดยครูปรีดา

       
          เมื่อปี 2553 ผมมีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่ใช่ไหนไกล ถือเป็นเพื่อนบ้านและชาติอาเซี่ยนด้วยกัน
          มาเลเซีย และ สิงคโปร์  โดยเฉพาะสิงคโปร์ น่าสนใจมาก เพราะ ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของสิงคโปร์นั้น ถือว่าอยู่อันดับต้นๆของเอเซีย
          เริ่มต้นเดินทางโดย รถบัส เข้ากรุงเทพพักแถวสุขุมวิท (ไหนก็จำไม่ได้แล้ว) พอตื่นก็นั่งบัสมาเช็คอินที่สุวรรณภูมิไปหาดใหญ่ ถึงหาดใหญ่แต่เช้า
  จากนั้น ก็นั่งรถบัส จากสนามบินหาดใหญ่ไปด่านสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นพรมแดนไทย มาเลเซีย (รัฐเกดะห์) และทานอาหารมื้อเช้าที่นี่หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยกันทุกคนแล้ว บางคนก็แลกเปลี่ยนเงิน "ริงกิต" ที่นี่ด้วย

   และแล้ว เราก็เจอ ไกด์นำคณะทริปนี้ เป็นคนรัฐปีนัง เชื้อสายจีน พูดไทยสำเนียงจีนเหมือนคนไทยเชื้อสายจีน เด๊ะ...(ไกด์ปีเตอร์)

     สถานที่แห่งแรกที่จะไปคือ รัฐปีนัง(บ้านไกด์ปีเตอร์) ข้ามสะพานปีนังที่ยาวที่สุดติดอันดับที่ 6 ของโลกที่ทอดยาวลงไปในทะเล ยาว 13.5 กิโลเมตร กว่าจะถึงปีนัง ก็เวลาเที่ยงวัน สภาพสิ่งก่อสร้าง สถาปัตกรรมของที่นี่ ก็เป็นตึก เป็นคอนโดสูง ไม่ต่างจากเมืองใหญ่ๆทั่วไป สภาพแวดล้อมสะอาด ร่มรื่นดี

          พอถึงก็ไปภัตตาคารจีนแห่งหนึ่งบนเกาะปีนัง ที่นี่ ไกด์ แจก แจ่วบองด้วย เพื่อไม่ให้หลายๆคน เลี่ยนอาหารจีน (เลี่ยนจริงๆ ถ้าไม่มีแจ่วบอง เย็นนี้ต้องฝันเห็นแน่นอน)


ภาพหน้าภัตตาคารจีน


รถบัสที่ไปรับ คณะของพวกเราตั้งแต่ลงเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่

            หลังจากอิ่มหนำสำราญ ก็มานั่งหลับ อ๊ะ นั่งบัสคันนี้ชมเมืองปีนัง ก่อนข้ามสะพานที่ยาวที่สุดนี้กลับมาฝั่งมาเลย์อีกที


บริเวณท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ของปีนัง


          มีสามล้อแบบนี้ บริการนักท่องเที่ยวชมเมืองด้วย แต่คงร้อนน่าดู นี่แค่ผมนั่งอยู่บนรถบัสแอร์  ก็ยังมีความรู้สึกร้อนๆเลย  สักพัก ผมก็หลับ ให้ไกด์บ่นกล่อมนอนอย่างดี  มาตื่นอีกทีก็ได้ยินว่ากำลังเดินทางจะเข้าพักที่ เก้นติ้งไฮแลนด์ บนเขาทีมีอาการเย็นสบายตลอดทั้งปี เป็นโรงแรมที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ และการเดินทางขึ้นไปก็ สามารถขึ้นได้โดยรถบัส หรือ จะนั่งกระเช้าขึ้นไปก็ได้ และไกด์ก็จะพาเราไปขึ้นกระเช้ากัน
          เนื่องจาก คณะเดินทางซึ่งกว่าจะมาถึงที่นี่ก็มืดแล้ว การนั่งกระเช้าก็เลยขาดความงามจากทัศนียภาพ ความหวาดเสียวไปอย่างมาก แต่ถึงจะมืด ก็ยังมีคนกลัวจนต้องอธิษฐาน ให้หลวงปู่ หลวงพ่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกช่วยหลานตามสไตล์


          หลังจากลงจากกระเช้า ไกด์ก็พาเดินมาที่โรงแรมซึ่งไกลมาก ต้องลากกระเป๋าขึ้นลงบันไดเลื่อนนับไม่ถ้วนแล้วก็มารอขึ้นลิฟท์ เพื่อขึ้นไปห้องพักที่นี่ครับ


          หลังจากเข้าห้องแล้ว นอกหน้าต่าง ผมก็ไม่พลาด เก็บบรรยากาศเป็นที่ระทึก โรงแรมใหญ่จริงๆ แล้วก็ไม่มีแอร์จริงๆ อากาศน่าจะประมาณ 13-14 องศา  แล้วก็หลับแบบไม่รู้เรื่อง เพราะเหนื่อยกับการเดินทางนั่งรถทั้งวันจริงๆ
          วันที่ สอง ของการเดินทาง เช้าวันที่ 5 เมษายน 2553 ผมได้เห็นภาพนี้ครับ


          เป็นภาพที่ผมบันทึกหลังจากอาหารเช้าแล้ว ไกด์นัดหมายให้ลงมาด้านล่างของโรงแรม หมอกลงจัด เหมือนไม่ใช่หน้าร้อน อุณหภูมิประมาณ 10-12 องศา


          ผู้เขียน ชอบบรรยากาศแบบนี้แบบส่วนตัวๆครับ ก็เลยตั้งบันทึกอัตโนมัติ สักภาพ เป็นบริเวณที่จอด บัส ที่จะนำคณะเราลงจากเขา และสิ่งที่ได้เจอที่แปลกตาก็คือ ต้นเฟิร์นยักษ์ครับ บ้านเราที่เคยเห็นก็มีแต่ต้นเล็กๆ


ต้นเฟิร์นยักษ์ มีตลอดเส้นทางลงจากเขา เก้นติ้งไฮแลนด์


          เส้นทางลงเขาที่โค้งไปโค้งมา บางช่วงก็เห็นตึกปิโตรนัส ที่กัวลาลัมเปอร์เลยทีเดียว และก่อนจะถึงพื้นล่าง บัสคณะทัวส์ได้จอดแวะร้านขายช็อกโกแลตของฝากของที่นี่ด้วย
  
          นี่คือกระจาดบรรดา ช็อกโกแลต แบบต่างๆนะครับ ไม่ใช่ไข่นกกระทา หรืออะไร วางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวซื้อติดมือเป็นของฝาก พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ พูดภาษาไทยคล่อง(สำเนียงจีน)น่ารักดี
          กำหนดการวันนี้ ไกด์จะพาชมสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของมาเลเซีย และไฮไลท์ก็คือการศึกษาดูงานทางด้านการจัดการศึกษาของมาเลเซีย

ด้านหลังของผมคือ จัตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square)
เป็นอาคารสุลต่านอับดุล ซาหมัด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย เป็นสถาปัตยกรรมแบบ มูริส อินเดียผสมผสานกับศิลปะแบบอาหรับ ความสูงของยอดโดมมีขนาดเท่ากับ 40 เมตร และหอนาฬิกาที่สวยงาม ถ้ามาดูตอนกลางคือยิ่งสวย เพราะจะประดับด้วยหลอดไฟต่างๆ สวยงามครับ

          อากาศเริ่มร้อนสุดๆ น่าจะประมาณเกือบ 40 องศาได้ หลายคนไม่ยอมลงจากบัส ร้อนจริงๆ ส่วนผม ไม่ลงมาเก็บภาพนี้ได้ยังงัย มาทั้งที


          ยังอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ครับ ที่เห็นในภาพนี้คือ "มัสยิดปุตรา" แห่งเมืองปุตราจายา รอยต่อเมืองหลวงของมาเลเซียกับซิลิคอนวัลเลย์ เมืองแห่งอนาคต ได้รับการออกแบบให้เป็นเมืองต้นแบบที่ทันสมัยด้วยสถาปัตยกรรมและงานดีไซน์ที่ล้ำหน้า ล้อมรอบด้วยความร่มรื่น สวน และ ทะเลสาบ มองไกลอีกหน่อยนั่นคือ "สะพานเสรีวาวาซาน" สะพานที่ไกด์อวดว่าสวยที่สุดในโลก วาซั่น...


อีกมุมสวยๆ ที่จับภาพได้ จริงๆ ถ่ายไว้หลายช็อต ได้ภาพนี้ครับ ดีที่สุด เมืองปุตราจายา

          ประมาณ บ่าย 2 เดินทางมาถึง โรงเรียน Sekolah Kebangsaan Port Dickson เป็นโรงเรียนประถมศึกษา


          ระบบการศึกษาในประเทศมาเลเซีย พัฒนาจากพื้นฐานเดิมของประเทศที่มีชาวมาลายูผู้นับถือศาสนาอิสลาม มีวิถีชีวิตแบบชาวมุสลิมตะวันออก เดิมระบบการบริหารการศึกษาของมาเลเซีย บริหารแบบไม่เป็นทางการ มีปอเนาะ มัสยิด หรือบ้านผู้รู้เป็นฐานในการจัดการศึกษา
          ระบบการบริหารการศึกษาของประเทศมาเลเซียอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการ แบ่งระดับการบริหารการศึกษาเป็น ระดับชาติ ระดับรัฐ ระดับอำเภอ ระดับกลุ่มโรงเรียน และระดับโรงเรียน เน้นโครงสร้างที่เล็กกระทัดรัด กระชับ และมีประสิทธิภาพ


คณะครูของโรงเรียน Sekolah Kebangsaan Port Dickson ให้การต้อนรับ


มุมหนึ่งของโรงเรียน  วิชาพลศึกษา


ภายในห้องเรียน หลังจากเลิกเรียนแล้ว นักเรียนจะช่วยกันทำความสะอาด จัดโต๊ะเก้าอี้อย่างเป็นระเบียบ


บรรยากาศของโรงเรียน สะอาด มีสวนหย่อมที่ดูเขียว ร่มรื่น


หลังคาทางเดินก็มีมุมความรู้ให้กับนักเรียน


ป้ายสูตรคูณต่างๆ ปักไว้ตามสวนหย่อม ดูดี แข็งแรง สวยงาม

          หลังจาก ร่ำลาคณะครูโรงเรียน Sekolah Kebangsaan Port Dickson  แล้ว คณะเราเดินทางไปที่เมือง มะละกา เข้าที่พักก่อนเข้าสิงคโปร์


ก่อนเข้าที่พัก ไกด์พาชมเมือง มะละกา เมืองในสวนจริงๆ นี่บรรยากาศยามค่ำคืนยังดูสวยงาม กลางวันคงร่มรื่นมาก


ไม่พลาดหรอกครับ ต้องเก็บภาพไว้เป็นที่ระทึกตามสไตล์


เป็นถนนหน้าโรงแรมที่พัก ถ่ายจากหน้าต่างโรงแรมอิมพีเรียล ด้วยกล้อง Cannon 500D บรรยากาศยามค่ำคืนของมะละกา


          เช้าวันที่ สาม หน้าโรงแรมอิมพีเรียล คณะเตรียมตัวเข้าสู่ประเทศสิงคโปร์ ที่ด่าน "ต๊วจ"จากนั้นกำหนดการแรกคือศึกษาดูงานที่โรงเรียน  San Yu Adventist School โรงเรียนในเครือคริสตจักรเซเว่นเดย์ แอ๊เวนติส ประเทศสิงคโปร์ ที่นี่ ไม่เพียงสอนนักเรียนให้มีความรู้ความสามารถทางวิชาการตามแบบแผนหลักสูตรการศึกษาของสิงคโปร์เท่านั้น แต่ยังเน้นอบรมหลักคุณธรรมคำสอนเพื่อให้เติบโตเป็นคนดีอีกด้วย  

          ผู้บริหารโรงเรียนคือ  Mr.Tang  Swee Keng   กล่าวว่าวิธีการรับนักเรียนเข้าเรียนโรงเรียนนี้เป็นนักเรียนสิงคโปร์และนักเรียนต่างชาติ รวมทั้งนักเรียนจากประเทศไทย  ซึ่งโรงเรียนให้ความสำคัญกับการรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดีและเน้นเด็กเก่ง  โดยรับนักเรียนที่มีคะแนนสูงกว่าเกณฑ์เท่านั้น 

          ส่วนหลักสูตรของโรงเรียนนั้น  โรงเรียนจัดวิชาเรียนด้วยการศึกษาคอมพิวเตอร์ทั้ง 2  ระดับ  คือทั้ง Primary  และ Secondary  โดยเฉพาะ Secondary  1  และ  2  ส่วน  Secondary  3  และ 4  นั้นจะเน้นเนื้อหาวิชาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ศาสนาและวิชาเลือกของด้านวิทยาศาสตร์ 2 วิชา  จาก เคมี ชีววิทยา  และฟิสิกส์  นอกจากนั้น   โรงเรียนยังเน้นในเรื่องบุคลิกภาพ  และความเป็นผู้นำของนักเรียนมากกว่าการใช้เทคโนโลยี  เพราะมุ่งเน้นให้นักเรียนศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในเครือข่ายทั้งในออสเตรเลีย และอเมริกา


นี่คือเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับสืบค้นของนักเรียนที่นี่ (ยังใช้จอรุ่นเก่า ที่ประเทศไทยใช้จอLCDแล้ว)


หน้าโรงเรียน  San Yu Adventist School โรงเรียนในเครือคริสตจักรเซเว่นเดย์ แอ๊เวนติส 
ประเทศสิงคโปร์ 


ถนนหน้าโรงเรียน San Yu Adventist School ดูร่มรื่นมากๆ ไม่ได้กลิ่นมลพิษเลยครับ


ทำไมถึงสะอาดได้ปานนี้ นี่คร้บ พวกเศษใบไม้ร่วงต่างๆ มันถูกเก็บกวาดลงถุงสีชมพูนี้ครับ


เป็นเมืองในสวนจริงๆ


เสร็จจากการดูงานการศึกษาแล้ว คณะก็เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆของประเทศสิงคโปร์ครับ อุโมงค์ทางลอดผ่านแยกต่างๆของเมืองสิงคโปร์แบบเป็นมิตรกับธรรมชาติ


ระบบอัตโนมัติ Scan ผ่าน Sim หน้ารถแบบเติมเงิน เมืองไทยก็มีแล้วเช่นกันครับแต่ไม่หรูหราปานนี้


ตึกสีสวยๆ กำลังปรับปรุง


Marina Bay Sands สถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์สุดฮิต โรงแรมที่มี SkyPark เป็นรูปเรือเชื่อมตึกสามตึกเข้าด้วยกัน กำลังจะเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของสิงคโปร์ในอนาคต กำลังก่อสร้างและใกล้จะเสร็จแล้ว ไกด์บอกว่า มีแรงงานจากประเทศไทยมาทำตึกนี้เยอะมาก ว่างั้น... 


Merlion Park สิงโตพ่นน้ำสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ ที่อ่าวมารีน่า มองไปเห็นมารีน่าเบย์ แซนด์


City Skyline ของสิงคโปร์ หมู่ตึกสำนักงานย่าน Raffles Place สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของสิงคโปร์ในเรื่องความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจการเงินของโลก


Sentosa Island เกาะแห่งความสนุกของการท่องเที่ยวครับ เกาะแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมาย เป็นแหล่งช๊อปปิ้ง คาสิโน ดูหนัง ดูคอนเสริต เป็นเกาะละลายทรัพย์อีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์


 Siloso Beach การแสดงบนชายหาด ที่ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจมาก ฉากแสงสี พลุต่างๆ ทะเลที่มีฉากหลังเป็นเรือเดินสมุทรอยู่ที่เส้นขอบฟ้า เป็นการแสดงที่ประทับใจก่อนกลับที่พัก

          วันที่ สี่  มีเวลาในการช๊อปปิ้งสินค้าย่านที่พักจนถึงบ่าย 3 คณะทัวส์ก็นัดรวมเพื่อเดินทางไปสนามบินสิงคโปร์ โดยสายการบิน ไทเกอร์แอร์เวย์ ในเวลา 17.30 น.


ทันทีที่เครื่องบินขึ้นก็ถึงประเทศมาเลเซียทันทีครับ  ในภาพกำลังจะได้ภาพดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าสวยๆ  เจ้าไทเกอร์แอร์เวย์ก็ดันเอียงปีกเลี้ยวซะงั้น...


ถึงประเทศไทยเวลา 19.30 น. ในภาพนี้เป็นแสงไฟจากถนนต่างๆแถวๆบางนา ก่อนที่เครื่องจะลงสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นภาพที่แปลกตาและไม่เคยเห็นมาก่อน ผมกดไปหลายช็อต 

          สำหรับทริปนี้ ก็เป็นประสบการณ์ในการศึกษาดูงานที่ดีอีกโอกาสหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าจะได้ไปอีกไหมก็ไม่ทราบได้ ก็เลยพยามเก็บเกี่ยวนำประสบการณ์ หรือ สิ่งดีๆที่ได้เจอ มาเล่าสู่กันฟังนะครับ ภาพทั้งหมดบางส่วนรวมทั้งไฟล์วีดีโอนั้นได้ตัดต่อและนำขึ้นบน Youtube แล้ว ขอบคุณสำหรับการเข้ามาชมบล็อคของผม ขอบคุณครับ