วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

ตะลุยเกาหลีหนาวสุดขั้วระทึกตรวจคนเข้าเมืองเข้มงวดที่สุดในโลก โดยครูปรีดา


          มีโอกาสได้ไปเที่ยว จีน และ เกาหลี กับคณะคุณครูโรงเรียนมัธยมฯ แห่งหนึ่งครับ ประมาณปี 2555 เก็บเอาเรื่องราวประสบการณ์ เดินทางมาฝากท่านผู้อ่านครับ สำหรับท่านที่จะเดินทางไปประเทศนี้ (เกาหลี)
          ก่อนเดินทางผมทราบว่า การเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ เป็นเรื่องยากมาก สำหรับคนไทย โดยเฉลี่ยแต่ละวันที่ ตม.เกาหลี ส่งกลับคนไทย วันละ 30-40 คน (อะไรจะปานนั้น)
          เนื่องจาก มีคนไทย เดินทางเข้าประเทศเกาหลีแล้วก็เข้าไปทำงานที่ประเทศนี้แบบผิดกฏหมายครับ (โรบินฮู๊ด) ไม่ว่าจะเป็นชายหญิง วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ มีหมด มีหลายท่านที่ได้รับประสบการณ์และผลกระทบจากกรณีนี้หลายท่าน ทั้งที่ไม่ได้มีเจตนาในการอย่างว่า คือจะไปเที่ยว แต่...ถูกส่งตัวกลับ บางรายไปแบบครอบครัว เช่น ไปกับแม่ ตัวเองถูกส่งตัวกลับ แต่แม่ผ่านเฉยเลยก็มี ก็เลยต้องปล่อยให้แม่เที่ยวกับกรุ๊ปทัวส์ไป คุณแม่ก็คงเที่ยวไม่สนุกล่ะครับ ใครจะอยากให้เป็นแบบนี้ ใครก็ช่วยไม่ได้ครับ แม้แต่ทัวส์ก็ช่วยไม่ได้ ตม.เกาหลี มีอำนาจในการจะให้ใครอยู่ใครไปก็ได้ ใครเจอแบบนี้ก็เซ็งเป็ดล่ะคร๊าบบ
          
                    

               และแล้วก็ถึงวันเดินทาง โดยสายการบิน Air China คนจีนเต็มลำ พูดเสียงดัง ชวงชางๆ ตามแบบฉบับของความเป็นตัวของตัวเอง เครื่องออก ตี2 ผมหลับตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกด้วยซ้ำ  ผมหลับไป 4 ชั่วโมงบนเครื่อง ดูนาฬิกา 6 โมงเช้า(เวลาจากเมืองไทย) มองนอกหน้าต่าง(เผอิญได้ที่นั่งติดหน้าต่าง) โอ๊ะว้าว...แปลกตา



ทัวร์เราจะแวะเปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่ง และจะต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนของการเข้าปักกิ่งครับ แต่ไม่น่าห่วงอะไร อยากเล่าให้ฟังครับ เจ้าหน้าที่ ตม.จีนที่สนามบินปักกิ่ง มีแต่ผู้หญิง หน้าตาดี สวย สดใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส อายุน่าจะไม่เกิน 20 ปีประมาณนี้ สวมเครื่องแบบดูเข้มแข็ง ผมถึงคิวเข้าตรวจตามขั้นตอน อยากเล่าให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่ ตม.ที่ว่า ใช้มือนิ่มๆ (ไม่ใส่ถุงมือ) ลูบตั้งแต่คอ ไหล่ แขน จับมือด้วย จากนั้นก็ลูบต่อ ตั้งแต่หน้าอก พุง เอว ก้น ต้นขา ลูบตั้งแต่ต้นขาลงไปถึงรองเท้า แล้ววนขึ้นมาใช้นิ้วคลำๆตรงกระเป๋ากางเกง คลำทุกกระเป๋าที่มีของกางเกงครับ พอน้องเค๊าสงสัย เค๊าก็ถามว่า "What is this?" ผมก็ตอบว่า  Fishermans friend น้องเค๊า งง ครับ ก็เลยล้วงให้เค๊าดู พอเค๊าเห็นก็ OK ยิ้มแฉ่ง ลูบไปอีก ก็ถามอีก ปรากฎว่าเป็นไม้จิ้มฟัน ติดมาจากร้านอาหารที่ สุวรรณภูมิ ผมไม่รู้ว่าศัพท์ ไม้จิ้มฟัน ว่าอะไร ก็เลยล้วงให้ดูอีก พอเค๊าเห็น หัวเราะร่าเลยครับ ผมว่านะ เค๊าต้องรู้ล่ะว่ามันเป็นอะไร แต่ประมาณว่าอยากเล่นมุขนี้ ผมก็เลยเข้าใจซะ
สนามบินปักกิ่ง
                    กว่าจะเปลี่ยนเครื่องมุ่งหน้า เกาหลีใต้ได้ ก็เกือบ 8 โมงเช้า หิวก็หิวพอดี จัดหนักบนเครื่องช่วง ปักกิ่ง -  อินชอน ซะเลย
ถึงเกาหลี
                    ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง (ปักกิ่ง - อินชอน)  
                    ต้องนั่งรถไฟใต้ดินไปโผล่ ตม.เกาหลี ครับ  พอถึงก็เดินขึ้นไปบนชั้นบน เป็นห้องกว้างมากๆ ประมาณจุคนได้เป็น พันๆ คน ไกด์ทัวร์เริ่มจัดระเบียบแถวลูกทัวร์ครับ แล้วก็แบ่งให้ไปอยู่แถวนั้นบ้างแถวนี้บ้าง ตามช่องต่างๆที่มีประมาณ 10 กว่าช่อง แจกเอกสารที่พัก เที่ยวบิน เพื่อใช้ในกรณี ตม.เกาหลี เรียกเข้าห้องเย็น เช้าวันนั้น นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าเกาหลีเยอะมาก ไม่รู้ชาติไหนเป็นชาติใด ระหว่างที่รอคิว ตม. ผมสังเกตุว่า ถ้าเป็นพวกฝรั่ง(พวกที่ไม่ใช่เอเซีย) ไม่มีปัญหาเลยครับ ผมก็เลยคิดในใจว่า คอยดู มันจะเลือกปฏิบัติไหม พอถึงคิวคนไทย ใครในกรุ๊ปทัวร์เรา ใครจะโชค..... พอถึงคิวกรุ๊ปทัวร์เรา หลายคน ผ่านครับ ผ่านๆๆๆ และก็ ผ่าน ได้ ก็ไปยืนรอกันอีกด้าน ลุ้นว่าใครจะโดน ผมเริ่มมีอาการไม่ค่อยมั่นใจ   คงจะโดน และแล้ว ก็ไปยืนต่อหน้า ตม.เกาหลีสาว หน้าบึ้งตึง  ไม่พูดไม่ถาม ใช้วิธีชี้นิ้วให้เรา สแกนนิ้วมือ นิ้วนั้น นิ้วนี่ (สแกน 2 นิ้ว 2 ข้าง อะไรนักหนา) และ ถ่ายรูปเรา จากนั้น หล่อนก็ดูพาสปอตเรา เปิดหน้านั้น หน้านี้ แล้วก็มองหน้าเรา หล่อนหันหน้าไปหาใครที่ไหนไม่รู้ ผมก็เลย เอาล่ะเด้อบาดนิ  แต่สักพักหล่อนก็แต๊มผ่านแล้วยื่นให้ มองหน้าผมแบบเหยียดๆ ไม่พูดอะไรซักคำ  นางเอ๊ยยย....
ฉลุยครับ สำหรับด่าน ตม.เกาหลีใต้ 
เตรียมสัมผัสกับบรรยากาศ สุดขั้ว
                    กว่าจะเสร็จขั้นตอนของ ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลี ก็ เที่ยง ตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบนะขอรับ หลังจากเข้าห้องน้ำ งัดเอาเสื้อกันหนาวออกมาเตรียมตะลุยเกาหลี และกำลังจะผ่านประตูของสนามบินอินชอน
                    นี่คือ ภาพแรกหลังจากที่เดินออกประตูสนามบินอินชอนพร้อมกับสัมผัสอุณหภูมิ 2 องศา ครับ
                    ในโพสต์นี้ ขอแชร์ในส่วนของอากาศที่นี่นะครับ โดยเฉพาะความหนาวเย็น ซึ่งบ้านเราคงไม่มีโอกาสจะหนาวได้ขนาดนี้     สิ่งที่เราจะเห็นสองข้างทางก็คือภาพแบบนี้ครับ

หน้าโรงแรมที่พัก
                    เรามาดูห้องพักในโรงแรมนี้กันครับ
                 
                    เป็นโรงแรมที่อยู่นอกเมืองมากๆ ชานกรุงโซล ไม่พลุกพล่านจอแจ


                   เป็นโรงแรมขนาดกลางๆ ถ้าเทียบกับของประเทศไทยเรา


                    ห้องที่ผมเข้าพัก เป็นเตียงคู่ ตกแต่งห้องด้วย วอลเปเปอร์และมีวัสดุซับเสียงด้วย


มีทีวี กาต้มน้ำร้อน มีกาแฟมีน้ำไว้ต้มกาแฟด้วย ต่างจากที่ มาเลเซีย ที่น้ำ ต้องซื้อ  และที่ต่าง
จากหลายๆโรงแรมที่เคยเห็น โรงแรมนี้ มี คอมพิวเตอร์ PC ให้ห้องละชุด เนตเร็ว เปรี๊ยะๆ
น่าจะ 5 จีได้ ทดลองเล่นแล้ว เร็วเวอร์


ห้องน้ำสะอาดดีครับ


และที่แปลกตา โดยเฉพาะ ผม เมื่อมาเจอ ชักโครก กดปุ่ม  ก้อเล่นซะรู้ทุกปุ่มแล้วครับ
ผมเพิ่งรู้ว่า แบรนด์ Panasonic เป็นของ เกาหลี  นึกว่าญี่ปุ่นซะอีก

หลังจากเพลิดเพลินกับการสำรวจสิ่งที่ไม่เคยเห็นซักพัก ก็ต้องรีบเข้าผ้าห่มนอน เพราะหนาวมาก
อุณหภูมิ 4 องศาน่ะครับ ชนิดไม่ต้องเปิดแอร์กันเลย ผมก็หลับอย่างแทบไม่ได้ฝันอะไร
อาจจะเหนื่อยกับการเดินทางด้วย กระทั้งตอนเช้าวันที่สองมาถึง


ภาพแรกที่เราเห็นทางหน้าต่างห้องพัก คือหลังคาที่จอดรถด้านหลังของโรงแรม


ผมออกจากห้องเดินสำรวจรอบๆโรงแรม ก็มาเห็นภาพนี้ ถือว่าเป็นภาพแปลกตาสำหรับคนไทย
ถ้าภาพแบบนี้ เกิดขึ้นที่ประเทศไทย คงเป็นข่าวดังมากๆ และเชื่อว่า ใครๆก็ต้องอยากมาดูให้ได้


ในเดือนที่ ผมเดินทางมาที่นี่ ไกด์ เล่าว่า เป็นช่วงที่ น้ำแข็งหรือหิมะ เริ่มละลายแล้ว แต่ก็ยังคงหนาว
ช่วงที่หนาวจริงๆของเกาหลี ประมาณ เดือน ธันวาคม และ มกราคม


ก็เลย ซักภาพเป็นที่ระทึก

สำหรับอาหารการกิน ในการมาทัวส์ในทริปนี้มีดังนี้ครับ


ไกด์พามาที่นี่ครับ ภัตตาคารเขาสูงใหญ่จัง


อันนี้ กระทะหม้อไฟ ประมาณนี้ครับ อร่อยดี รสชาด เหมือนอ่อมบ้านเรา



สาหร่าย มีทั้งแบบ แปรรูปเป็นแผ่น และ แบบยังเป็นต้น แต่ทั้งสอง ผัดมา รสชาดดี เค็มนิดๆ



มี เห็ดหูหนู และ ถั่วงอก ทอด มาให้ได้ชิมด้วย เป็นการทอดที่มีรสชาดดี คนเกาหลีกินกับข้าวสวยร้อนๆ
อร่อยมากครับสำหรับผมเพราะกำลังหิวจัดเลย


และที่ขาดไม่ได้  ที่คนไทยต้องมาชิมที่นี่ให้ได้คือ  "กิมจิ" จริงๆ ร้านอาหาร แบรนด์ชื่อ ญี่ปุ่นๆ เกาหลีๆ
ก็มีให้คนไทยได้ชิมที่เมืองไทยเยอะแยะนะครับ แต่นั้นก็ดูธรรมดาไปล่ะ
แต่ถ้าได้มากินที่นี่ มันเหมือนกิมจิที่นี่ ดูดี มีค่ามากกว่าที่เมืองไทย ทำไมไม่รู้
ทั้งที่รสชาดก็เหมือนกันเป๊ะๆ หรือไม่ ก็นำจากเกาหลีโดยตรงเลย

สำหรับทริปนี้ ประเทศเกาหลี น่ามาเที่ยว มาตามรอยอะไรก็ว่ากันไป...มาศึกษาวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ อาหาร ผู้คน ฯลฯ ถ้ามีโอกาสได้มา ก็มานะครับ ได้ประสบการณ์หลายๆอย่างที่นี่ ถึงแม้การเข้ามาท่องเที่ยวประเทศนี้ อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด หลายคนชอบบรรยากาศแบบนี้ หลายคนก็หลังจากเที่ยวเกาหลีแล้วก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นบ้าง ด้วยเหตุผลที่ว่า น่าจะมีความสวยงามคล้ายคลึงกัน ก็ลองไปเที่ยวดูนะครับ









วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557

การทำภาพหกเหลี่ยมด้วยPhotoshop โดย ครูปรีดา

13 ขั้นตอน ทำภาพหกเหลี่ยม ง่ายๆด้วยโปรแกรม Photoshop
          หลายท่าน อยากออกแบบภาพสวยๆ เพื่อใช้ทำประโยชน์ต่างๆ เช่น ทำปกหนังสือ งานกราฟฟิก วันนี้ ผมมีวิธีง่ายๆในการออกแบบภาพดังกล่าวโดยใช้โปรแกรม Photoshop มาให้ทุกท่านได้ลองทำดูนะครับ
ขั้นตอนที่ 1


นำภาพที่ต้องการตกแต่งเข้ามาในโปรแกรม Photoshop
Photoshop ที่ผมใช้งานเป็น เวอร์ชั่นเก่ามาก (version7)

ขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนที่ 3


ขั้นตอนที่ 4


ขั้นตอนที่ 5


ขั้นตอนที่ 6-7



ขั้นตอนที่ 8-9


ขั้นตอนที่ 10


ขั้นตอนที่ 11-12



ขั้นตอนที่ 13


ขอให้สนุกกับการตัดภาพนะครับ