เริ่มต้นการเดินทางโดย Thai lion air ไปกรุงเทพฯ บินนี้ได้รับประสบการณ์บินวนก่อนลง กัปตันแจ้งความผิดปกติของอากาศ จึงต้องบินวน 1 รอบเพื่อลง ปกติผมไม่เมารถเมาเครื่องครับ แต่ครั้งนี้ อาการมาชัดมาก
จากนั้นเข้าที่พัก หอพักคุรุสภา รอเวลาเพื่อไปต่อรถบัสของบริษัทลมพระยา เจ้าของเดียวกันกับเรือเร็วลมพระยา (ถนนข้าวสาร) ไปท่าเรือเฟอร์รี่ไฮสปีด บ.ลมพระยา อ่าวมะขามน้อย จังหวัดชุมพร รถบัสออกเวลา 21.00 น. ผมกับภรรยา ไปเช็คอินรับตั๋วบัสกับเรือเร็วตั้งแต่ 5 โมงเย็นกว่าๆ เขาเปิดให้เช็คอิน 6 โมงเย็น ราคาค่าโดยสารทั้งรถและเรือรวม 2,500 บาท/คน (ไป-กลับ) ก็นั่งรอไปตามระเบียบ สังเกตไม่ค่อยมีคนไทย มีแต่ต่างชาติหลังจากเช็คอินเสร็จ ได้ตั๋ว/สติ๊กเกอร์ ก็รอรถอีก 3 ชั่วโมง ช่วงรอก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไป ข้างนอกก็ขวักไขว่ผู้คนมากมาย ล้วนแต่เป็นต่างชาติ กว่าจะได้ขึ้นบัส เผอิญรถเข้า 4 ทุ่มครับ... ฝรั่งพอได้ยินว่ารถมา ส่งเสียง โล่งอกไปตามๆกัน รวมทั้งผมด้วย อึดอัดมากช่วงที่รอ(หนาวแอร์)
รถที่เดินทางลงไปชุมพร ที่ผมรอ เป็นรถปรับอากาศแบบธรรมดาครับ ไม่ได้เลือกแบบ Vip เพราะไม่รู้มาก่อน เป็นการเดินทางครั้งแรก ที่นั่งค่อนข้างแคบ เอนได้นิดหน่อย ผมหลับๆ ตื่นๆ ปวดขา ปวดเอว ตามประสาคนแก่ ดีที่รถมาจอดพักที่ ทับสะแก (ประจวบฯ) ได้ลงมายืดเส้นสาย 30 นาที แล้วเดินทางต่อ ถึงท่าเรือเร็วลมพระยา 05.30 น. บรรยากาศพลุกพล่านมาก รถทุกคันของลมพระยา ก็จะมาถึงเวลาเดียวกัน ทุกคนต่างลงมาขนสัมภาระ กระเป๋าเดินทางของใครของเรา และเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันและอาบน้ำภารกิจเช้ากินข้าวก่อนลงเรือเวลา 07.00 น.ใช้เวลาในการเดินทางไป เกาะเต่า 2 ชั่วโมง ระยะทาง 107 กิโลเมตร
เรือเร็วลมพระยา หรือลมพระยาเฟอร์รี่ เป็นเฟอร์รี่ที่มีความเร็วสูงเป็นเจ้าแรก และเพียงเจ้าเดียวที่ดำเนินการเรือข้ามฟากที่เร็วที่สุดในประเทศไทย ใช้เดินทางในทะเลอ่าวไทย ลมพระยาเฟอร์รี่ ให้บริการรับส่งจากเกาะสมุยไปเกาะพงัน และเกาะเต่า และบริการบนฝั่ง ยังรวมไปถึงการบริการวันเดย์ทริบไปเกาะต่างๆ
ทริปนี้ เรือแวะเกาะนางยวนก่อนและถึงเกาะเต่าในเวลา 09.00 น.
ผมกับภรรยา รีบลงจากเรือแล้วไปรอทัวส์ดำน้ำของ Oxygen หน้าเซเว่นแม่หาดตามนัดหมาย ประเดิมเกาะเต่าด้วยทัวส์ดำน้ำก่อนเลย ราคาทัวส์ คนละ 550 บาท (ประกันชีวิต+อาหารกล่อง+น้ำหวาน,กาแฟ+หน้ากากดำน้ำ) บรรยากาศการเตรียมตัว ก็จะเป็นฟิวต่างประเทศครับ เพราะมีกรุ๊ปคนไทยแค่ 2 ครอบครัว ใช้เวลาในการทัวส์ ตั้งแต่ 10.00 น. - 17.00 น. (เอาให้หนำใจ) และโชคดีผมได้เห็นเต่าด้วย ตัวใหญ่มาก..
เสร็จจากทัวส์ดำน้ำ ทาง Oxygen ก็มาส่งที่รีสอร์ท ผมจอง koh tao hillside resort ไว้ครับ เป็นเจ้าของเดียวกับ บ.เรือเร็วลมพระยา เป็นที่พักที่ให้บรรยากาศส่วนตัวมากๆ เงียบสงบ ไม่พลุกพล่านค่าห้องคืนละ 2,500 บาท ได้ห้องวิวทะเลสวยหลักล้านครับ ว่ากันว่า เป็นรีสอร์ทที่ได้วิวชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมากๆอีกมุมหนึ่งของเกาะเต่าครับ
วันที่สองเกาะเต่า ผมตื่นแต่เช้าชมทะเล นอกจากเสียงคลื่นเสียงทะเล ก็เสียงนกหลายชนิดรอบๆที่พักธรรมชาติที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาครับ ผมกับภรรยาเดินชมบรรยากาศของที่พักรอบๆ และเดินไปห้องอาหารเช้าที่อยู่ข้างบน(เขา) ที่พัก จัดอาหารเช้าตามมาตรฐานเหมือนโรงแรมชั้นนำทั่วไป มีครบถ้วนเมนู แต่หนักไปทางอาหารสำหรับต่างชาติ(ฝรั่ง,จีน) วันนี้ผมวางแผนว่าจะไป View point จอห์น-สุวรรณและ freedom beach ผมเช่ามอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นของรีสอร์ทครับ วันละ 300 บาท แต่... การเช่ามอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวบนเกาะเต่า ต้องเป็นผู้มีความชำนาญและทักษะดีมากๆนะครับ ถ้าไม่มั่นใจแนะนำว่าให้ใช้บริการรถท่องเที่ยวครับ เพราะเส้นทางสูงชันและอันตรายมากๆ ผมเดินทางถึง จอห์น-สุวรรณ มีค่าเข้าไปเที่ยว คนละ 50 บาท รวมเข้าหาด Freedom ด้วย อยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล เดินทางจากที่พักไม่นาน แต่ใช้เวลาขึ้นจุดชมวิวนานหน่อย เพราะเส้นทางขึ้นค่อนข้าง Adventure พอสมควร คนแก่ต้องระวังและเหนื่อยหน่อย เหงื่อชุ่ม เปียกหมดยันเกง ถึงข้างบนนี่ก็ว่าแทบจะหมดแรงกันเลย แต่พอเห็นวิวข้างบนแล้ว บอกเลย "หลักล้าน" คุ้มเหนื่อย
ลงจากจุดชมวิว ก็มาต่อที่ หาด freedom ครับ ได้นอนเปลที่หาดอยู่ประมาณชั่วโมง เป็นหาดที่มีความพิเศษต่างจากหาดอื่นๆ ว่ากันว่าเป็นหาดลับๆ อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ ไม่ไกลจากอ่าวโฉลกมากมีร่มเงาของต้นเทียนทะเลริมชายหาดผสานกับหาดทรายขาวละเอียด ทำให้ที่นี่เหมาะกับการนอนเล่นพักผ่อน ชื่นชมธรรมชาติมากกว่าที่อื่นๆ เดิมหาดนี้ชื่อหาดตาโต๊ะ เป็นชื่อที่มาจากแนวก้อนหินใหญ่ที่ชื่อว่า หินตาโต๊ะ ซึ่งอยู่บริเวณปลายแหลมของหาดทรายที่ทอดยาวหาดนี้
หลังจากที่นอนพักผ่อนแล้ว ผมก็ชวนภรรยา กลับที่พัก เนื่องจากประเมินสภาพปัจจุบันแล้ว สรุปว่าเหนื่อยจากจุดชมวิวมากๆ ระหว่างทางกลับแวะเซเว่นและร้านอาหารข้างทางก่อนถึงหาดทรายรี เป็นมื้อเที่ยงวันและสั่งเป็นกล่องกลับที่พักด้วย เพราะถ้าสั่งอาหารที่อื่นราคาแพงมาก จานละ 200.-(บวกค่าบริการ) ราคานี้เป็นราคามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวครับ ค่อนข้างจะเป็นราคาสำหรับต่างชาติมากกว่า
กลับถึงที่พัก ผมก็คืนรถมอเตอร์ไซค์เช่าเลยครับ น้ำมันยังคงขีดเดิมไม่ต้องเติมคืนครับ ถือว่าเช่ามาใช้น้อยมาก ไม่คุ้มแต่พิจารณาแล้วทางอันตรายมาก ถ้าเกิดอะไรขึ้นอาจไม่คุ้มหนักกว่าเดิมก็ได้ เลยคืน
ห้องที่พัก เป็นห้องที่เห็นวิวทะเลสวยมากๆ(หลักล้าน) มองเห็นเกาะนางยวนอยู่มุมขวาใกล้ๆและมองเห็นหาดทรายรีถึงท่าเรือแม่หาดได้ด้วยครับ ผมโชคดีที่ได้ที่พักที่ถูกใจมากๆ ใช้ชีวิตพักผ่อนที่ห้องมีความสุขมากๆ ท่ามกลางอากาศร้อนแดดเปรี้ยงๆ ผมก็ภรรยาคิดถูกที่ไม่ตะลอนๆทัวส์ต่อ ไม่งั้นอาจจะไม่สบายก็ได้ การได้พักผ่อนที่ห้องพักเย็นๆมองดูทะเลและเรือที่แล่นมาจอดจุดดำน้ำของทัวส์ต่างๆ ก็เพลิดเพลินดี ซึ่งเวลาอย่างนี้ มันช่างผ่านไปไวเกิน แป็บๆก็มืดค่ำแล้ว
วันที่สาม เช็คเอ๊าท์ ผมตื่นแต่เช้าเพื่อจะชมทะเลวันสุดท้ายครับ และยังประทับใจเสียงนกเสียงธรรมชาติของที่พัก Koh tao hillside resort มากๆครับ และผมก็ได้บันทึกภาพเป็นวีดีโอที่ได้ยินเสียงนี้ไว้ตามระเบียบ
อาหารเช้าวันสุดท้าย ผมกับภรรยา คุยกันว่าจัดให้หนักเพราะวันนี้เราต้องเดินทางทั้งวันยันกรุงเทพ ที่พักนัดหมายเวลาให้เช็คเอ๊าท์ 08.30 น. รถของที่พักจะไปส่งท่าเรือแม่หาดเพื่อเช็คอิน 09.00 น.ลงเรือเร็วเวลา 10.00 น. ถึงฝั่งชุมพร ท่าเรือมะขามน้อย เวลา 12.00 น. ต่อรถบัสเข้ากรุงเทพ เวลา 13.00 น. กว่าจะถึงกรุงเทพ ก็เวลา 21.00 น. ถึงหอพักคุรุสภา เวลา 21.30 น. เหนื่อยสุดๆ
เช้าวันกลับบ้าน ผมเช็คเอ๊าท์ที่พักแต่เช้า ได้แท๊กซี่มาดอนเมือง ยังไม่แปดโมงด้วยซ้ำ พอถึงก็เช็คอินไฟท์กลับกับตู้คีออสปริ้นบอร์ดดิ้งพาส ที่มีน้องๆของสายการบินคอยให้บริการ ผมเพิ่งใช้บริการครั้งแรกครับ เลยรู้สึกถึงความสะดวกสบาย ไม่ต้องไปต่อคิวหน้าเค้าเตอร์ เสร็จเหลือเวลาเยอะแยะเลยชวนกันไปกินข้าวเช้าที่ เมจิกฟู๊ดหลังเซเว่น และบินกลับอุดรแต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมเมาเครื่องอีกจนได้ ไม่ทราบด้วยสาเหตุใด เครื่องบินวนสนามบินอุดร 3 รอบครับ เป็นครั้งประวัติศาสตร์การเมาเครื่องของผมจริงๆ(ครั้งนี้ตั้ง 3 รอบแล้วกัปตันก็ไม่บอกสาเหตุด้วย)
สรุปทริปเกาะเต่าในครั้งนี้ ถือว่าได้เปิดประสบการณ์ที่ใหญ่ยิ่งอีกครั้ง ทะเลใต้สวยจริงๆ หากมีโอกาส ก็จะไม่ปฏิเสธเลยครับ อยากไปบ่อยๆ เป็นที่ที่น่าพักผ่อนมากๆครับ ครั้งหนึ่งในชีวิต